ใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ มิจฉาชีพออกอาละวาดหนัก หลอกลวงขาย Gift Voucher ที่พัก โรงแรม ปลอมพลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพมักหลอกลวงเหยื่อด้วยกลอุบายรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งการหลอกลวงขาย Gift Voucher ทิพย์ สกมช. มีข้อแนะนำให้ประชาชนตั้งข้อสังเกตและตรวจเช็กดูก่อนว่าเป็นเพจจริงหรือเพจปลอม
โดยเริ่มต้นหากเป็นเพจใน Facebook อยากให้ดูว่ามี meta verified หรือจุดสีฟ้าหรือไม่ เพราะหากมี เพจนั้นจะได้รับเครื่องหมายยืนยันรับรองการมีตัวตนจริง จากนั้นให้ดูว่าชื่อเพจมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และดูว่าแอดมินเพจเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ เพื่อเช็กความน่าเชื่อ รวมถึงดูว่ามีรีวิวผู้ใช้บริการจริงหรือไม่ และควรเช็กความถูกต้องก่อนโอนเงินผ่าน google map และเว็บไซต์ “CHECKKON”.com
ย้ำว่าวิธีเหล่านี้สามารถนำไปตรวจเช็กได้กับทุกแพลตฟอร์ม ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบโฆษณาจากแพลตฟอร์มออนไลน์ พบว่า ส่วนใหญ่เชื่อถือไม่ได้ เพราะไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนโฆษณา ดังนั้น ประชาชนควรระมัดระวัง
เลขาธิการ สกมชคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. กล่าวด้วยว่า สถิติการหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ของปีที่แล้ว สร้างความเสียหายกว่า 15,000 ล้านบาท โดยการหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์มากที่สุด คือ การซื้อของแล้วไม่ได้ของ รองลงมาเป็นการหลอกให้ทำงานออนไลน์ การหลอกลวงให้กู้เงินผ่านแอปพลิเคชันกู้เงินการหลอกลงทุน และการโทรข่มขู่ หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ด้านนางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการจำหน่ายเวาเชอร์ที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ การท่องเที่ยวในประเทศเป็นไปอย่างคึกคัก โรงแรมที่เป็นพาร์ทเนอร์ราว 300 แห่งมียอดจองที่พักเต็มแล้วกว่า 90% โดยเฉพาะโซนใกล้กรุงเทพฯ อย่างชลบุรี พัทยา บางแสน ศรีราชา ส่วนใหญ่เต็มหมดแล้ว
และแน่นอนว่าช่วงเทศกาลท่องเที่ยวแบบนี้ จะมีมิจฉาชีพสร้างเพจปลอม หลอกให้จองทัวร์ โรงแรม หรือหลอกขายเวาเชอร์ระบาดเต็มกลุ่มเฟสบุ๊ก ซึ่งเพจปลอมเหล่านี้เรียกว่าก็อปปี้ของจริงแบบเหมือนเป๊ะ และมีลูกค้าหลงเชื่อโอนเงินไปแล้วจำนวนมาก
นางสาวณีรนุช ยังบอกว่า พาร์ทเนอร์ของตนที่เป็นโรงแรม และอาหาร รายใหญ่ ก็โดนสร้างเพจปลอมเหมือนกัน ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาเจอไปแล้ว 3 เพจในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน และทั้งหมดนี้แทบแยกไม่ออกว่าเป็นเพจปลอม
นางสาวณีรนุช กล่าวว่า เมื่อก่อนอาจสังเกตได้ง่ายจากจำนวนผู้ติดตาม จำนวนยอดไลก์ การทำคอนเทนต์ แต่เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพพัฒนาขึ้น ก็อปปี้มาแบบ 100% แถมซื้อจำนวนผู้ติดตามให้ดูน่าเชื่อถือ ดังนั้นการสังเกตที่สำคัญสุดคือตอนโอนเงิน
เรามีวิธีสังเกตง่าย ๆ คือดูจำนวนยอดผู้ติดตาม ดูจำนวนคอนเทนต์เขา ดูรีวิวเขา แต่มิจฉาชีพบางเพจเดี๋ยวนี้เขาทำเนียนมากนะคะ เขาไปซื้อจำนวนยอดผู้ติดตาม ให้ดูจำนวนเยอะเหมือนกัน ถึงบอกว่าจริง ๆ เราดูตรงนั้นได้เบื้องต้น เป็นการสกรีนเบื้องต้น แต่ว่าสุดท้ายแล้วตอนโอนเงินสำคัญ ลองดูก่อนว่าตอนโอนเงินบัญชีเป็นบัญชีแบบไหน ชื่อเดียวกันไหมอะไรแบบนี้ นางสาวณีรนุช กล่าว
นางสาวณีรนุช แนะนำวิธีการสังเกต ดูแค่จำนวนผู้ติดตามอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องดูรีวิวเพจด้วย รวมถึงดูโปรโมชัน ต้องไม่ถูกเกินความเป็นไปได้ ที่สำคัญคือตอนชำระเงินให้ดูที่ชื่อบัญชี โดยปกติแล้วจะเป็นชื่อโรงแรม หรือชื่อบริษัท หากเป็นบัญชีส่วนบุคคลให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ และหากเป็นไปได้ให้โทรเช็กกับทางโรงแรม
นางสาวณีรนุช ยังฝากถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยากให้จริงจังกับการแก้ปัญหา เพราะตอนนี้มิจฉาชีพระบาดจริง ๆ และพัฒนากลยุทธ์ขึ้นเรื่อย ๆ สร้างความเสียหายจำนวนมาก ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ แต่มันส่งผลเป็นวงกว้าง ผู้ประกอบการเองก็เดือดร้อนเช่นกัน