บรรยากาศของค่ายทหารใหม่ในหมู่บ้านทเซล ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมินสก์ เมืองหลวงราว 90 กิโลเมตร ค่ายนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อสมาชิกทหารแวกเนอร์โดยเฉพาะ ภายในประกอบด้วยเต็นท์ที่พักราว 300 หลังพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

เจ้าหน้าที่จากกระทรวงกลาโหมเบลารุสพาผู้สื่อข่าวต่างประเทศเข้าไปเยี่ยมชมบรรยากาศภายในของเต็นท์ที่ค่อนข้างกว้างขวาง เต็นท์หนึ่งหลังสามารถเข้าพักได้หลายคน

นักวิเคราะห์ เชื่อ “ปริโกชิน” อาจถูกสังหารหลังทรยศ "ปูติน"

ลูกาเชนโก เผยเบื้องหลังเจรจา “ปูติน” ต้องการกำจัด “ปริโกซิน”ที่พยายามก่อกบฏ

ค่ายแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่เยฟเกนี ปริโกชิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ตกลงไว้กับกระทรวงกลาโหมรัสเซีย โดยมีเบลารุสเป็นคนกลาง หลังแผนการก่อกบฏถูกยกเลิก และเจ้าตัวลี้ภัยมายังเบลารุส

อย่างไรก็ตามแม้สถานที่จะเตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีสมาชิกกลุ่มแวกเนอร์คนใดได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่ เนื่องจากสมาชิกของแวกเนอร์ปัจจุบันยังคงประจำการอยู่ในค่ายพักที่ตัดจั้งขึ้นทางพื้นที่ตะวันออกขของยูเครน พื้นที่ที่ถูกรัสเซียยึดครองหลังเปิดฉากรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2022

รายงานจากลีโอนิด คาซินสกี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของเบลารุสระบุว่า ทางกลาโหมพร้อมต้อนรับทหารแวกเนอร์ ทั้งยังคาดหวังด้วยว่า ความรู้และความสามารถของทหารรับจ้างรัสเซียจะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพเบลารุส เนื่องจากในเวลานี้ทหารเบลารุสบริเวณชายแดนก็กำลังเผชิญกับความยากลำบากจากสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าบรรดาทหารแวกเนอร์จะเดินทางมาอาศัยอยู่ที่นี่ตามข้อตกลงหรือไม่ และล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ก็เพิ่งรายงานว่า ปริโกชินเดินทางกลับไปยังรัสเซียแล้ว สถานการณ์ในเวลานี้จึงต้องติตดามความคืบหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ และข้อตกลงจะมีความเปลี่ยนแปลงหรือไม่

ด้านประชาชนว่าอย่างไร โดยเฉพาะคนเบลารุสที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านทเซล หากในอนาคตอันใกล้นี้ หมู่บ้านดังกล่าวกลายมาเป็นฐานที่มั่นแห่งใหม่ของทหารแวกเนอร์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

คนที่นี่เสียงแตก มีทั้งคนที่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าการมีแวกเนอร์ก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจ อีกทั้งหมู่บ้านนี้ก็เป็นฐานทหารเบลารุสอยู่แล้ว บรรยากาศไม่น่าจะแตกต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก ไปจนถึงคนที่ไม่เห็นด้วย และไม่ต้องการให้ทหารรับจ้างต่างชาติกรูกันเข้ามาในเบลารุส

มหากาพย์การก่อกบฏของแวกเนอร์เริ่มขึ้นในคืนวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา เยฟเกนี ปริโกชิน ประกาศผ่านเทเลแกรมว่า ตัวเขาจะก่อกบฏและต้องการโค่นล้ม เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ทหารแวกเนอร์เคลื่อนทัพข้ามจากฝั่งยูเครนเข้ามาในเมืองรอสตอฟ ออนดอน เตรียมที่จะมุ่งหน้าไปยังกรุงมอสโก ท่ามกลางความประหลาดใจของหลายฝ่าย

ด้านรัฐบาลรัสเซียตั้งรับเต็มที่ ท่ามกลางการจับตาจากนานาชาติว่าความขัดแย้งนี้อาจนำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมือง แต่แล้วในวันที่ 24 มิถุนายนซึ่งเป็นวันถัดมา ในช่วงค่ำจู่ๆ ปริโกชินก็ประกาศล้มเลิกแผนการ ตามมาด้วยข่าวที่ว่า หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์เดินทางไปเบลารุสในวันที่ 27 กรกฎาคม เพื่อเจรจาข้อตกลงโดยมีประธานาธิบดีลูคาเชนโกเป็นคนกลาง

จากนั้นข่าวคราวของทหารแวกเนอร์ก็หายไป จนกระทั่งล่าสุดที่ประธานาธิบดีลูคาเชนโกแถลงว่า ปริโกชินเดินทางกลับไปยังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามมาด้วยภาพของค่ายใหม่ที่เบลารุสสร้างไว้ให้ล่าสุดที่ทางกระทรวงกลาโหมเบลารุสเปิดให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศเข้าชม

แผนการก่อกบฏล่าสุดยังสั่นสะเทือนไปถึงกลุ่มแวกเนอร์ในซีเรียด้วย รายงานระบุว่า แวกเนอร์เข้ามาช่วยทหารซีเรียรบกับกลุ่มกบฏในสงครามกลางเมืองตั้งแต่ปี 2015 และปัจจุบันทหารแวกเนอร์จำนวนหนึ่งก็ยังคงประจำการในซีเรีย

สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า ในช่วงที่กลุ่มแวกเนอร์ก่อกบฏ รัฐบาลซีเรียตัดสินใจตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารอื่นๆ ในฐานทัพของกลุ่มแวกเนอร์ซีเรีย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกบฏต่อเนื่องเป็นลูกโซ่

ส่วนในเวลานี้ รัฐบาลซีเรียกำลังรอดูว่า สมาชิกทหารแวกเนอร์ในซีเรียจะยอมเข้าร่วมกับข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งหากไม่ก็มีแนวโน้มที่ซีเรียจะขับไล่ทหารแวกเนอร์ทั้งหมดออกจากประเทศ

การที่กลุ่มแวกเนอร์ย้ายฐานที่มั่นจากรัสเซียมาที่เบลารุสทำให้หลายประเทศที่มีพรมแดนติดกับเบลารุสเป็นกังวลโดยเฉพาะโปแลนด์ซึ่งเป็นสมาชิกนาโต

ล่าสุดรัฐบาลโปแลนด์ได้ประกาศเคลื่อนกำลังพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ไปที่ชายแดนด้านตะวันออกเพื่อเตรียมรับมือ

มาริอุช บลัสซ์แซค รัฐมนตรีกลาโหมของโปแลนด์ได้ออกมาทวิตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ได้สั่งการให้ทหารกว่า 1,000 นายจากหน่วยกองพลยานยนต์ที่ 12 และ 17 พร้อมยุทโธปกรณ์เต็มอัตรามุ่งหน้าไปประจำการที่แนวชายแดนทางด้านตะวันออกของประเทศซึ่งติดกับเบลารุส

การออกมาตั้งรับของโปแลนด์เกิดขึ้นเนื่องจากความไม่ไว้วางใจเบลารุส หลังจากเมื่อเดือนธันวาคม 2021 รัฐบาลเบลารุสได้สนับสนุนให้ผู้อพยพจำนวนมากจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือพยายามฝ่าพรมแดนของโปแลนด์เพื่อเข้าไปในสหภาพยุโรป

ในช่วงนั้นเกิดความวุ่นวายอย่างหนักบริเวณแนวชายแดนเมื่อหน่วยความมั่นคงของโปแลนด์พยายามสกัดผู้อพยพเหล่านั้น

หลายชาติออกมาประณามว่าโปแลนด์ไม่มีมนุษยธรรม แต่รัฐบาลโปแลนด์โต้กลับว่า ได้พยายามช่วยผู้อพยพทั้งหมดอย่างเต็มที่แล้ว แต่การเข้ามาของผู้อพยพทั้งหมดนี้เป็นแผนการทำสงครามไฮบริดของเบลารุสเพื่อบั่นทอนความมั่นคงของโปแลนด์ สหภาพยุโรปและนาโต

หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่ถึง 2 เดือน รัสเซียก็ยกกำลังเข้ารุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 เนื่องจากไม่ไว้ใจเบลารุสและรัสเซีย โปแลนด์จึงได้เร่งสร้างรั้วตามแนวชายแดนที่มีความยาวกว่า 200 กิโลเมตร ก่อนที่ล่าสุดจะประกาศเคลื่อนกำลังทหารประจำการ หลังมีภาพของกองกำลังแวกเนอร์เข้ามาใช้เบลารุสเป็นฐานที่มั่นใหม่